สปอร์ติ้ง ลิสบอน สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลนี้ หลังจากสามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้อย่างขาดลอย 4 ประตูต่อ 1 ทั้งๆที่ถูกนำไปก่อนตั้งแต่ช่วงต้นเกม เป็นการเฉลิมฉลองการคุมทัพนัดสุดท้ายของ อโมริม ก่อนจะโยกไปคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไปในเดือนหน้า
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สปอร์ติ้ง ลิสบอน 4 – แมนฯ ซิตี้ 1
สนาม : เอสตาดิโอ โชเซ่ อัลวาลาด
ซิตี้ เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากออกนำไปก่อนอย่างไว ตั้งแต่นาทีที่ 4 ของเกม จากความผิดพลาดของเกมรับ ลิสบอน ที่ถูก โฟเด้น แย่งบอลมาได้บริเวณกลางสนาม ก่อนจะลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และยิงเข้าไปอย่างสุดสวย ส่งทีมเยือนนำไปก่อน 1-0
4 นาทีต่อมา ลิสบอน พลาดโอกาสตีเสมออย่างไม่น่าเชื่อ เพราะทาง วิคเตอร์ โยเคอร์เรส ได้หลุดเดี่ยวไปดวลกับ เอเดอร์สัน แต่ยิงได้น่าผิดหวัง ไม่ผ่านมือผู้รักษาประตู
ซิตี้ เกือบจะขึ้นนำ 2 ประตูเช่นกัน ในนาทีที่ 28 จากการเตะมุมของ ฟิล โฟเด้น ที่โยนเข้าเสาไกลให้ เออร์ลิ่ง ฮาร์แลนด์ ได้โหม่งย้อนทาง เกือบจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ โยเคอร์เรส ยังมาช่วยเคลียออกไปได้
นาทีที่ 38 ลิสบอน มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จาก เกโอวานี่ เกวนด้า ที่จ่ายบอลหลุดแผงหลัง ซิตี้ มาให้กับ โยเคอร์เรส ได้กระชากหลุดไปดวลกับ เอเดอร์สัน อีกครั้ง แต่รอบนี้คมขึ้นเยอะ ยิงเข้าไปได้ ตามตีเสมอสำเร็จ
ครึ่งหลัง กลายเป็นครึ่งของ ลิสบอนชัดเจน เมื่อเริ่มไม่ถึงนาที พวกเขาก็มาได้ประตูนำจากการจ่ายทะลุช่องของ เปโดร กอนซัลเวส ไปให้กับ มักซิมิเลียโน่ อเราโฆ ได้หลุดไปยิงแบบไม่มีปัญหา
เท่านั้นยังไม่พอ ผ่านไปอีกแค่ 3 นาที ซิตี้ อาการหนัก เมื่อมาเสียจุดโทษจากการทำฟาวล์ของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และเป็น โยเคอร์เรส ที่สังหารเข้าไปได้อีกลูก
ซิตี้ มีลุ้นตีตื้นในนาทีที่ 65 เมื่อพวกเขามาได้ลูกจุดโทษบ้าง แต่ เออร์ลิ่ง ฮาร์แลนด์ ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งไปชนคาน ออกไปอย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายเกมจบลงทันทีในนาทีที่ 80 เมื่อ ลิสบอน มาปิดกล่องได้อีกประตู จากการทำฟาวของ นูเนสในกรอบเขตโทษ ทำให้ โยเคอร์เรส รับหน้าที่สังหารอีกครั้ง ซัดเข้าไปตามระเบียบ จบเกม คว้าชัยชนะเหนือ ซิตี้ไปได้ ทำให้ ทีมเยือน แพ้ต่อเนื่องมาแล้ว 3 เกมติดต่อกัน
11 ตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม