การแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือกรอบสาม กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อ ทีมชาติไทย ที่เพิ่งประเดิมสนามเปิดบ้านเอาชนะ ทีมชาติศรีลังกา ด้วยสกอร์ 1-0 คว้า 3 แต้มสำคัญ ได้ตามเป้าหมาย เตรียมตัวเดินหน้าไปสู่บททดสอบครั้งสำคัญอีกครั้งกับการออกไปเยือน เติร์กเมนิสถาน ในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการดวลที่เต็มไปด้วยความหมาย เพราะทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือการคว้าชัยชนะเพื่อเก็บแต้มล้ำค่าในศึกนี้ให้ได้
ในรอบคัดเลือกนี้ เอเชียน คัพ 2027 จะคัดเลือกเอาเพียง ทีมแชมป์กลุ่ม ของทั้ง 6 กลุ่ม เท่านั้นที่จะสามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ นั่นหมายความว่า ทุกแมตช์มีความสำคัญอย่างยิ่ง และการที่ ทีมชาติไทย ต้องเดินทางไปเผชิญหน้ากับ เติร์กเมนิสถาน ในฐานะทีมเยือนที่ อัซกาบัต สเตเดี้ยม ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ของเกมนี้เต็มไปด้วยความกดดันและความท้าทาย
สนาม อัซกาบัต สเตเดี้ยม ถือเป็นสนามเหย้าที่แข็งแกร่งของ เติร์กเมนิสถาน และเป็นสถานที่ที่ทัพ ช้างศึก ต้องปรับตัวให้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะนี่ไม่ใช่สนามธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในสนามที่มีความพิเศษและเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทำความรู้จัก…อัซกาบัต สเตเดี้ยม สนามเหย้าแห่งความภาคภูมิใจของเติร์กเมนิสถาน
สนาม อัซกาบัต สเตเดี้ยม ถูกสร้างขึ้นในปี 2009 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปี 2011 โดยสนามแห่งนี้มีความจุที่สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 20,000 คน จุดประสงค์หลักในการสร้างสนามนี้คือเพื่อเฉลิมฉลองวันประกาศอิสรภาพของ เติร์กเมนิสถาน ซึ่งทำให้สนามแห่งนี้มีความหมายพิเศษต่อชาวเติร์กเมนิสถานอย่างยิ่ง
จุดเด่นสำคัญของสนาม อัซกาบัต สเตเดี้ยม คือ พื้นสนามที่ปูด้วยหญ้าเทียม ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ เนื่องจากเติร์กเมนิสถานมีภูมิอากาศที่แปรปรวนและอุณหภูมิที่อาจสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว การใช้ หญ้าเทียม จึงเป็นการแก้ปัญหาให้สนามสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดทั้งปี
นอกจากพื้นสนามที่แข็งแกร่งแล้ว ระบบไฟส่องสว่างของ อัซกาบัต สเตเดี้ยม ก็ได้รับการติดตั้งให้ได้มาตรฐานของ ฟีฟ่า ซึ่งทำให้สามารถจัดการแข่งขันในช่วงกลางคืนได้อย่างไร้ข้อบกพร่อง ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานสนามฟุตบอลของ เติร์กเมนิสถาน ให้สามารถรองรับการแข่งขันระดับนานาชาติได้อย่างสมบูรณ์
โครงสร้างอเนกประสงค์ใต้สนามอัซกาบัต สเตเดี้ยม
สิ่งที่ทำให้สนามแห่งนี้พิเศษยิ่งขึ้นคือโครงสร้างอเนกประสงค์ที่อยู่ ใต้สนามฟุตบอลหลัก โดยพื้นที่ใต้ดินนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับกิจกรรมกีฬาอื่น ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสนามเทนนิส, โรงยิมสำหรับกีฬาวอลเลย์บอล, บาสเก็ตบอล, แบดมินตัน และกีฬาอื่น ๆ อีกมากมาย แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายของสนามนี้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ สโมสรเอฟซี อัซกาบัต ทีมฟุตบอลชื่อดังของเติร์กเมนิสถาน ยังใช้ อัซกาบัต สเตเดี้ยม เป็นสนามเหย้าของพวกเขาอีกด้วย การที่ทีมชาติไทยต้องไปเยือนที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่เพียงแต่ต้องเจอกับ เติร์กเมนิสถาน ที่มุ่งมั่นจะคว้าชัยในบ้าน แต่ยังต้องเผชิญกับสนามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่จะกลายเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับทัพ ช้างศึก
การแข่งขันที่ อัซกาบัต สเตเดี้ยม ครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สำคัญสำหรับ ทีมชาติไทย ในการลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไปของ เอเชียน คัพ 2027 ด้วยเป้าหมายที่สูงส่งนี้ การเตรียมพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจของนักเตะจึงต้องมีความสมบูรณ์แบบที่สุด
ติดตามการเดินทางของ ทีมชาติไทย สู่สนาม อัซกาบัต สเตเดี้ยม และทุกความเคลื่อนไหวในศึก เอเชียน คัพ 2027 ได้ที่ ฟุตบอลไทย TOPTOWIN