ปิดฉากเส้นทางล่าแชมป์อย่างน่าเสียดาย สำหรับ “ทรายบินช้างศึก” ทีมฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย ที่สู้จนสุดใจ ก่อนจะพ่ายให้กับทีมแกร่งจากตะวันออกกลางอย่าง ซาอุดิอาระเบีย ไปแบบสุดระทึก 3-4 ในศึก ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2025 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ณ สนามจอมเทียน บีช อารีน่า เมืองพัทยา เมื่อค่ำวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้พลพรรคช้างศึกต้องยุติเส้นทางในทัวร์นาเมนต์ไว้เพียงรอบนี้ และชวดโควต้าไป ฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์โลก 2025 ที่จะคัดเอาเพียง 3 ชาติจากทวีปเอเชียเท่านั้น
สำหรับการแข่งขันรายการนี้ จัดโดยสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) ภายใต้ชื่อ “AFC Beach Soccer Asian Cup Thailand 2025” ซึ่งทีมชาติไทยในฐานะเจ้าภาพทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้อย่างยอดเยี่ยม ชนะรวด 3 นัดเต็ม ไล่ถล่ม อินเดีย 3-0, เบียดเอาชนะ เลบานอน แบบดุเดือด 5-4 และเฉือน คูเวต ช่วงต่อเวลา 4-3 ทะยานเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เกมนี้ “โค้ชเอก” เศรษฐกรชัย ชื่นตา กุนซือมากประสบการณ์ยังยึดผู้เล่นชุดหลักลงสนามต่อเนื่อง นำโดย สุริยา บริเดช นายด่านจอมหนึบที่ทำผลงานได้โดดเด่นตลอดรายการ ประสานกับแนวรับอย่าง วัชระ เลไพจิตร กัปตันทีม, นที จีปน, มาซายูกิ โยชิดะ และแนวรุกตัวเก่งอย่าง คมกริช ณะน่าน โดยขาดเพียง วุฒินันท์ ปรือทอง ที่ติดโทษแบน
เริ่มพีเรียดแรก นาทีที่ 6 ซาอุดิอาระเบียได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ คาลิด ลากเลื้อยหนีแนวรับไทยก่อนจ่ายให้ มาเจด ยิงโล่งๆ ไม่พลาด ทว่าทีมชาติไทยไม่ยอมง่าย ๆ นาที 11 ผู้รักษาประตูซาอุฯ อลาจมี่ ยิงไกลบอลมาเข้าทาง นที จีปน ที่เก็บตกได้ก่อนยิงสวนข้ามหัวอลาจมี่เสียบตาข่ายอย่างเฉียบขาด ตีเสมอเป็น 1-1
เข้าสู่พีเรียดที่สอง นาทีที่ 21 เกมกลับมาระเบิดอารมณ์แฟนบอลเจ้าถิ่นอีกครั้ง เมื่อ สุริยา บริเดช โชว์ของด้วยการซัดไกลจากหน้าประตู บอลพุ่งเสียบคานเสาไกลเข้าไปอย่างหมดจด พาไทยพลิกขึ้นนำ 2-1 แบบสะใจทั้งสนาม
เกมยิ่งเข้มข้นขึ้นในพีเรียดที่สาม นาที 27 มาเจด ชัมฮานี่ โหม่งข้ามหัวสุริยาเข้าไป ตีเสมอให้ซาอุฯเป็น 2-2 จากนั้น นาที 31 เกิดจังหวะปัญหาเมื่อผู้เล่นไทยบาดเจ็บ สุริยาจึงเตะบอลออกเพื่อให้เกมหยุด แต่ฝั่งซาอุฯกลับเล่นเร็วทันที อลาจมี่ ขว้างบอลเร็วให้ โอมาร์ คาร์ค โหม่งสวนเข้าไปแบบไม่ทันตั้งตัว กลายเป็นว่าซาอุดิอาระเบียขึ้นนำ 3-2
แม้ไทยจะถูกนำอีกครั้ง แต่หัวใจไม่ยอมแพ้ นาทีถัดมา อลาจมี่ กลับเป็นคนพลาดเองเมื่อจับบอลไม่อยู่มาเข้าทาง รัฐพงษ์ นาดี ซัดสวนเข้าไปแบบไม่ต้องคิดนาน ตีเสมอเป็น 3-3 แบบทันควัน
อย่างไรก็ตาม นาที 33 ซาอุฯมาได้ฟรีคิกระยะอันตราย และเป็น อัลฮามามี่ ที่บรรจงซัดผ่านมือสุริยาเข้าไปอย่างเฉียบคม พาทีมขึ้นนำ 4-3 และแม้ไทยจะพยายามอย่างหนักในช่วงเวลาที่เหลือ แต่ไม่อาจเจาะแนวรับซาอุฯได้ จบเกม ทีมชาติไทย พ่าย ซาอุดิอาระเบีย 3-4 ต้องจอดป้ายเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย
ขณะที่ซาอุดิอาระเบียผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรกของรายการ พร้อมมีลุ้นคว้าตั๋วไป ชิงแชมป์โลกฟุตบอลชายหาด 2025 ต่อไป
แม้จะพลาดเป้าหมายสำคัญ แต่ฟอร์มการเล่นของทรายบินช้างศึกในรายการนี้สะท้อนถึงพัฒนาการและหัวใจนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ได้อย่างชัดเจน เชื่อได้ว่าอีกไม่นานพวกเขาจะกลับมาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวและศึกเดือดลูกหนังทุกสนามได้ที่ ฟุตบอลไทย TOPTOWIN