ศึกฟุตบอลอาวุโสสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “ฟุตบอลอาวุโสสานสัมพันธ์ ครั้งที่ 6/68” ปิดฉากลงอย่างสมศักดิ์ศรี โดยผู้ที่คว้าถ้วยเกียรติยศ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีตผู้บัญชาการทหารบก ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ก็คือ ทีมศิษย์เก่าปทุมคงคา ที่โชว์ฟอร์มสุดเข้ม ดุดัน และเต็มไปด้วยความเก๋าเกม ไล่ล้มคู่แข่งระดับพระกาฬ จนผงาดขึ้นคว้าแชมป์ในดิวิชั่น 1 ได้อย่างคู่ควร
การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 มกราคม ถึง 6 มีนาคม 2568 ณ สนามฟุตบอลกรมการสื่อสารทหาร ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยมี บิ๊กแป๊ะ ถิรชัย วุฒิธรรม นายกสมาคมกีฬาแห่งกรุงเทพมหานคร รับหน้าที่ประธานจัดการแข่งขัน พร้อมด้วย พลเอก ราชรักษ์ เรียนพืชน์ และ พลโท ชาญณรงค์ ยี่โต๊ะ เป็นรองประธานจัด และ พันเอก วัชรกร อันทะคำภู รับหน้าที่เลขานุการ
จุดเด่นของรายการนี้คือการกำหนดช่วงอายุผู้เล่นอย่างละเอียด เพื่อให้การแข่งขันมีความยุติธรรมและสนุกเร้าใจ โดยแบ่งเป็น เรตอายุ 68 ปีขึ้นไป (เกิดก่อนปี 2500) ลงสนามได้ 2 คน / อายุ 64-67 ปี (2501–2504) ลงได้ 4 คน / อายุ 60–63 ปี (2505–2508) ลงได้ 4 คน / ส่วนผู้รักษาประตูเปิดโอกาสให้ใช้เรตอายุ 55 ปีขึ้นไป (เกิดก่อนปี 2513)
ทีมที่เข้าร่วมทั้ง 12 ทีม ต้องผ่านคุณสมบัติเข้มข้น โดยต้องเป็นศิษย์เก่าที่มีหลักฐานยืนยันจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย รวมถึงจากหน่วยงานราชการทางทหารอย่างแท้จริง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการแข่งขันของ “ของจริง” เท่านั้น
การแข่งขันแบ่งเป็น 3 ดิวิชั่น ตามผลงานในรอบแรก โดยแต่ละดิวิชั่นชิงชัยกันอย่างเข้มข้น ก่อนที่ผลจะออกมาว่า ศิษย์เก่าปทุมคงคา ยึดถ้วยแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ วีไอพี ทหารบก ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 จากประตูชัยของ ชูเกียรติ กังวล ซึ่งถือเป็นประตูทองแห่งชัยชนะ
เบื้องหลังความสำเร็จของทีมศิษย์เก่าปทุมคงคา คือการนำทัพของอดีตแข้งดังระดับตำนาน “โค้ชหนุ่ย” เฉลิมวุฒิ สง่าพล อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติไทยเจ้าของฉายา “เท้าชั่งทอง” ที่อายุ 67 ปีแล้ว แต่ยังโชว์คลาสลูกหนังทั้งในฐานะนักเตะและกุนซือได้อย่างโดดเด่น โดยนอกจากเฉลิมวุฒิแล้ว ทีมยังส่ง “ตระกูลสง่าพล” ลงสนามครบทั้งสามพี่น้องจากสามเรตอายุ คือ เฉลิมวุฒิ (64–67 ปี), ไพโรจน์ (68 ปีขึ้นไป), มณเฑียร (60–63 ปี) เรียกว่าเป็นทีมเวิร์กครอบครัวลูกหนังอย่างแท้จริง
ขุมกำลังของปทุมคงคายังแน่นไปด้วยอดีตนักเตะระดับตำนาน อาทิ มาด๊าด ทองท้วม ปีกซ้ายจรวดในตำนาน, สุภาพ ผิวนวล, ชูชัย อังกาบแก้ว, ธีรพล ขุนเมือง, สุนันท์ เหลือบริบูรณ์, ชาญชัย วีระทรัพย์, กิตติพงษ์ เจริญสินรุ่งเรือง และอีกมากมาย โดยมี พ.ต.ท.ณัฎฐเดช อยู่นุช รับหน้าที่ผู้ควบคุมทีม
ผลงานของศิษย์เก่าปทุมคงคาในทัวร์นาเมนต์นี้ถือว่ายอดเยี่ยมชนิดไร้ข้อกังขา
- รอบแบ่งกลุ่ม นัดแรก ชนะ ทวีธาภิเศก 4-0
- นัดสอง ชนะ อำนวยศิลป์ 1-0
- นัดสาม แพ้ วีไอพี ทหารบก 0-2
- นัดสี่ ชนะ ธรรมศาสตร์ 2-1
- นัดห้า ชนะ รวมดาวสี่เหล่าทัพ 5-2
- รอบรองฯ ชนะ วีไอพี ทหารอากาศ 3-1
- นัดชิงฯ ชนะ วีไอพี ทหารบก 1-0 คว้าแชมป์
ผู้เล่นที่มีบทบาทโดดเด่นหลายคน เช่น ไพโรจน์ สง่าพล ที่ได้รับเลือกเป็นนักเตะทรงคุณค่าของทีม, ชูชัย อังกาบแก้ว ที่ยิงได้หลายประตู และ เฉลิมวุฒิ สง่าพล ที่มีบทบาททั้งโค้ชและผู้เล่น
ทางฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้ประกาศรางวัลนักเตะทรงคุณค่าจากแต่ละทีม รวมถึงรางวัลทีมมารยาทยอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของ ศิษย์เก่าโยธินบูรณะ
การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลและองค์กรหลายฝ่ายที่มีบทบาทสำคัญ อาทิ ดร.รัศมี ศรีสุนทร, ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์, ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ, พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ, พ.อ.ธิติโชค พรมโสภา, คุณธวัชชัย วัฒนวงศ์ภิญโญ, กลุ่มศิษย์เก่าสวนกุหลาบ รุ่น 106, รวมถึง บริษัท Pharmaceuticats (Thailand) และ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด
บทสรุปของการแข่งขันในปีนี้ไม่เพียงแค่เป็นชัยชนะของทีมศิษย์เก่าปทุมคงคาเท่านั้น แต่ยังเป็นชัยชนะของความรักในฟุตบอล มิตรภาพระหว่างรุ่นใหญ่ และการต่อยอดจิตวิญญาณนักกีฬาที่ยังเปล่งประกายแม้จะผ่านกาลเวลา
ติดตามข่าวสารกีฬาและความเคลื่อนไหวสุดเข้มข้นได้ที่ ฟุตบอลไทย TOPTOWIN ที่นี่ที่เดียว