แม้ชื่อชั้นของ ทีมชาติอัฟกานิสถาน อาจไม่ใช่ทีมระดับท็อปของเอเชีย แต่ในการเจอกับ ทีมชาติไทย ในแมตช์อุ่นเครื่อง ฟีฟ่าเดย์ มีนาคม 2025 ค่ำคืนวันศุกร์ที่ 21 มีนาคมนี้ ณ ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 20.00 น. (ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32, YouTube BG SPORTS และ TrueVisions NOW) ขุนพล “สิงโตแห่งโฆรอซอน” ชุดนี้ไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย เพราะขนนักเตะฝีเท้าดีที่ค้าแข้งอยู่ต่างแดนมาเพียบ ทั้งในยุโรป, ออสเตรเลีย และลีกชั้นนำของเอเชีย ซึ่งหลายคนมีดีกรีและประสบการณ์ไม่ธรรมดา และนี่คือ 5 แข้งอันตรายที่ลูกทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ต้องจับตาให้ดี หากไม่อยากเจอบทเรียนราคาแพง

[1] โอมิด โปปาลซาย – ขุนกลางจอมเทคนิคประสบการณ์สูง
แม้อายุจะย่างเข้า 30 ปี แต่ความเก๋าเกมของ โอมิด โปปาลซาย ยังจัดจ้านในย่านนี้ กองกลางจากสโมสร พีเอสไอเอ็ม ย็อกยาการ์ต้า ทีมแชมป์ลีกรองอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีประสบการณ์สูงที่สุดในชุดนี้ ด้วยการติดทีมชาติมาแล้วถึง 42 นัด รั้งอันดับ 4 ตลอดกาลของอัฟกานิสถาน

โปปาลซายเกิดที่อัฟกานิสถาน แต่ย้ายไปเติบโตที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมดังอย่าง เอ็นอีซี เบรด้า ก่อนจะตระเวนค้าแข้งในยุโรปหลายประเทศ สั่งสมประสบการณ์จนกลายเป็นห้องเครื่องคนสำคัญ จุดแข็งของเขาคือทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม สัมผัสนิ่มนวล และการจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาสที่เฉียบขาด หากปล่อยให้มีพื้นที่ได้มองเกม มีสิทธิ์ปั่นป่วนแนวรับไทยแบบไม่ทันตั้งตัว

[2] เตาฟี่ ซาคันดารี่ – ปีกจอมสปีดจากฮ่องกงที่ห้ามให้วิ่งหลุด
อีกหนึ่งอาวุธริมเส้นที่น่ากลัวของอัฟกานิสถานคือ เตาฟี่ ซาคันดารี่ ปีกซ้ายที่ถนัดเท้าขวาแบบธรรมชาติ ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ลี แมน สโมสรระดับแนวหน้าของฮ่องกงลีก ชื่ออาจไม่คุ้นหู แต่ฝีเท้าไม่ธรรมดาแน่นอน

ซาคันดารี่เกิดที่อัฟกานิสถาน แต่ย้ายไปอังกฤษตั้งแต่อายุเพียง 1 ขวบ โดยเติบโตในระบบเยาวชนของลีกอังกฤษ ก่อนจะออกไปลุยกับ B36 Torshavn ทีมดังของหมู่เกาะแฟร์โร และเคยสัมผัสเวที คอนเฟอเรนซ์ลีก มาแล้วในปี 2023 จากนั้นโยกมาเล่นในอินโดนีเซียช่วงสั้น ก่อนจะมาปักหลักในฮ่องกง

จุดเด่นของแข้งวัย 25 ปีรายนี้คือความเร็วปานสายฟ้า สปีดต้นที่จัดจ้าน และความคล่องตัวสูงแบบนักเตะสไตล์อังกฤษแท้ๆ การดวลแบบตัวต่อตัวของเขาสามารถฉีกแนวรับให้พังได้ในพริบตา หากแบ็กขวาไทยหลุดสมาธิแม้เพียงเสี้ยววินาที เตรียมรับมือความวูบวาบไว้ให้ดี

[3] ฟารี้ด ซาด๊าต – หัวหอกจอมจบสกอร์ที่เคยฝากรอยไว้ในไทย
สำหรับแฟนบอลไทย หลายคนน่าจะคุ้นชื่อของ ฟารี้ด ซาด๊าต เพราะเจ้าตัวเคยผ่านการค้าแข้งกับ นครศรี ยูไนเต็ด ในไทยลีก 2 มาแล้วเมื่อปี 2023 แม้จะไม่สามารถปรับตัวได้เต็มที่และย้ายออกไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ศักยภาพที่แท้จริงของเขาเพิ่งถูกปลดปล่อยหลังโยกไปร่วมทัพ บายังกาลา ทีมรองแชมป์ลีกรองของอินโดนีเซีย และกลายเป็นกองหน้าความหวังอันดับหนึ่งทันที

ซาด๊าตเกิดที่อัฟกานิสถาน แต่ย้ายไปเติบโตที่ฟินแลนด์ตั้งแต่เด็ก และเคยติดทีมชาติฟินแลนด์ชุดเยาวชนมาแล้วก่อนเลือกเล่นให้บ้านเกิดในทีมชาติชุดใหญ่ จุดแข็งคือการจบสกอร์ที่เฉียบขาด ความแข็งแกร่งทางกายภาพ และการเคลื่อนที่หาช่องได้อย่างชาญฉลาด เขาคือ “นักล่าเงียบ” ที่พร้อมฉวยโอกาสทุกความผิดพลาดของแนวรับไทยได้ทุกเมื่อ

[4] ราห์มัต อัคบารี่ – มิดฟิลด์พลังไดนาโมจากแดนจิงโจ้
ชื่อของ ราห์มัต อัคบารี่ อาจยังไม่คุ้นในวงกว้าง แต่ในหมู่แมวมองและผู้ติดตามฟุตบอลออสเตรเลีย เขาคือมิดฟิลด์ที่มีศักยภาพสูง วัยเพียง 24 ปี แต่เคยลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ บริสเบน รอร์ มาเกือบ 100 นัด และปัจจุบันเพิ่งเซ็นสัญญากับ โกลด์ โคสต์ ไนต์ส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และยึดตัวหลักได้ทันที

อัคบารี่เกิดในอัฟกานิสถานเช่นกัน ก่อนอพยพผ่านปากีสถานเข้าสู่ออสเตรเลียตั้งแต่ 5 ขวบ ทักษะฟุตบอลของเขาผสานทั้งความขยัน วิ่งไม่มีหมด พร้อมสกัดบอลหนักแบบไม่เกรงใจใคร การอ่านเกมที่แม่นยำของเขาทำให้แดนกลางนิ่งและแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากไทยครองบอลช้า มีสิทธิ์โดนกดดันจนเสียรูปเกมได้ไม่ยาก

[5] โมซาเวอร์ อาฮาดี้ – ปีกซ้ายสายเลื้อยที่หวดฟรีคิกเป็นพิษ
ปิดท้ายด้วย โมซาเวอร์ อาฮาดี้ ปีกวัย 25 ปีจากสโมสร ยาเวนปาน ปัลโลเซร่า แห่งฟินแลนด์ ผู้ที่เติบโตและใช้ชีวิตค้าแข้งเกือบทั้งอาชีพในแดนไวกิ้ง เคยไปสัมผัสลีกบ้านเกิดและลีกมอลตาแบบสั้นๆ ก่อนจะกลับมายึดตัวจริงกับต้นสังกัดในฟินแลนด์อีกครั้ง

จุดเด่นที่น่ากลัวของอาฮาดี้คือเท้าซ้ายที่แม่นราวจับวาง โดยเฉพาะการยิงฟรีคิกที่คมจนแทบไม่ต้องลุ้น ทักษะการลากเลื้อยของเขาก็ไม่ธรรมดา สามารถสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับได้แบบ 1 ต่อ 1 และถ้าแบ็กขวาไทยหลุดตำแหน่งหรือเสียฟาวล์ใกล้กรอบ อาจโดนลงโทษแบบเจ็บลึกได้ทันที

ทั้งหมดนี้คือ 5 แข้งอันตรายที่ ทีมชาติไทย ต้องรับมือให้ละเอียดในเกมอุ่นเครื่องนัดสำคัญนี้ แม้ชื่อของอัฟกานิสถานจะไม่ดังก้อง แต่ศักยภาพนักเตะแต่ละรายต่างมีประสบการณ์ระดับนานาชาติ และหากประมาทแม้เพียงนิดเดียว อาจกลายเป็นดราม่าที่แฟนบอลไทยไม่อยากเห็นแน่นอน

ติดตามข้อมูลวิเคราะห์เข้มข้นแบบนี้ต่อได้ที่ ฟุตบอลไทย TOPTOWIN

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,