รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ผู้จัดการทีมการท่าเรือ เอฟซี ออกมาให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ลูกทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดบ้านเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปได้ขาดลอย 5 ประตูต่อ 1 ในศึกไทยลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาล

“ลูกทีมทุกคนจริงๆ ก็อยู่ในช่วงแข่งขันกันด้วยนะครับ ไม่ใช่แค่เราจะพูดถึงแค่ผลการแข่งขันในเกมนี้อย่างเดียว แต่ในทีมก็มีการแข่งขันกันด้วย เพราะทีมผมมีนักเตะที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน ในทุกตำแหน่งทุกคนก็เหมือนมั่นใจในตัวเองว่าจะได้รับโอกาสด้วย พอผมเลือกใครลงไปเล่นก่อน ทุกคนก็ต้องรักษาและทำหน้าที่ของตัวเองออกมาให้ดีที่สุด เพราะคนที่เขารออยู่เขาก็ต้องการได้รับโอกาสนั้น ถ้าใครลงไปแล้วทำผลงานได้ดี ผมคิดว่าทีมของผมก็สามารถหมุนเปลี่ยนนักเตะให้แฟร์กับทุกคนมากที่สุด”

“ส่วนเรื่อง 11 ตัวจริงในใจ ผมคิดว่าถ้าจะเป็นทีมที่ดีหรือทีมที่จะประสบความสำเร็จ เราก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนนผู้เล่นเยอะๆ ได้ในทุกๆ เกม มันควรที่จะมีผู้เล่นที่เป็นโครงหลักของทีมอยู่แล้ว หรืออาจจะมีเปลี่ยนผู้เล่นบ้างใน 1 เกม หรือเปลี่ยนไม่เกิน 1-2 ตำแหน่งเท่านั้น ผมคิดว่าน้องๆ เองก็ตอบสนองกับแทคติกของผมในทุกๆ แบบแผนที่เราเตรียมตัวกันไว้ ซึ่งผมก็ต้องขอบคุณลูกทีมผมที่พยายามทำงานหนักร่วมกัน พยายามปรับเข้าหากันในทุกแทคติกด้วย”

“วันนี้เราอาจจะดูดีที่เราชนะ แต่เกมกับ ระยอง ในครึ่งแรก ผมคิดว่ามันยังมีอะไรที่ต้องปรับ การเล่นติดๆ ขัดๆ แทคติกอาจจะยังไม่เวิร์คด้วย จนเรากลับมาแก้ไขที่เราทำได้ไม่ดีในเกมกับ ระยอง ครึ่งแรก ทำให้เกมนี้เราทำได้ดีขึ้นในเรื่องของการเคลื่อนที่ และผู้เล่นที่เปลี่ยนลงไปก็สามารถเล่นได้ไหลลื่นขึ้นก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดกับทีมครับ”

“ส่วนเรื่องการรักษาฟอร์มการเล่นให้ดีต่อเนื่อง ผมก็ทราบดีว่าที่ผ่านมา ท่าเรือ ก็จบอันดับ 3 มา 5 ปี ผมก็ต้องขอให้นักเตะอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด อย่างเป้าหมายที่ผมมาที่นี่ ก็ใหญ่อยู่แล้ว ถ้าเราได้ที่ 3 อีก ผมก็คิดว่าเราไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งผมและนักเตะก็ทราบดี เราก็อยากจะเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์จนถึงวินาทีสุดท้าย ไม่อยากเหมือนกับปีที่ผ่านมา ผมและทุกคนก็อยากจะเข้ามาเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่ให้ดีขึ้น ก็อยากจะประสบความสำเร็จกับทีมครับ”

“ตลอด 2 เกมที่ผ่านมา ทุกทีมก็เตรียมตัวมาอย่างดี และก็ไม่ใช่งานที่ง่ายที่ทีมใหญ่จะชนะทีมที่เล็กง่ายๆ ผมคิดว่าการที่เราไปเจอทีมเล็กมันก็อึดอัดมากๆ เหมือนกัน เพราะทุกคนเตรียมตัวมาเพื่อจะเล่นเกมรับและโต้กลับกับเรา แต่พอเราเป็นทีมที่ต้องชนะเหมือนเราต้องเตรียมตัวที่จะเล่นเกมรุกในแดนของคู่ต่อสู้มากกว่าเกมรับ ซึ่งเราก็ต้องโดนลูกโต้กลับเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ผมคิดว่ามีมากกว่า 8 ทีมที่เราเจอแล้วน่าจะหนักใจ แต่ว่าถามว่าทีมไหนเป็นคู่แข่งที่ดุเดือดที่สุดผมยกให้เป็น บุรีรัมย์ฯ , บีจี และ แบงค็อกฯ ที่จะได้ลุ้นกันไปหวังว่าเราจะได้สู้กันไปจนวินาทีสุดท้าย”

“ส่วนความพร้อมการเล่น ACL Two ของทีม ตอนนี้ก็เริ่มให้ทีมงานเตรียมวิเคราะห์การเล่นของคู่ต่อสู้ไว้บ้างแล้ว เป้าหมายของเราก็โฟกัสเกมต่อเกม เป้าหมายแรกเราก็อยากจะผ่านรอบแรกให้ได้” โค้ชอ้น กล่าว

ชัยชนะขาดลอยในเกมนี้ ก็ทำให้ การท่าเรือ เอฟซี ขึ้นไปเป็นรองจ่าฝูง เก็บไปได้ 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัด เป็นรองจ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แค่ลูกได้เสียเท่านั้น

โดยเกมนัดต่อไปของพวกเขาจะต้องออกไปเยือนขอนแก่น ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ ที่ 24 สิงหาคม 2567 เวลา 18.00 น.

Categorized in:

ฟุตบอลไทย,