ทีมชาติศรีลังกา ภายใต้การคุมทีมของ อับดุลลาห์ อัล มูไธรี่ กุนซือชาวคูเวต กำลังเตรียมตัวอย่างหนักก่อนศึกใหญ่ในรายการ เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก รอบสาม โดยพวกเขาต้องเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญในกลุ่มที่เต็มไปด้วยคู่แข่งสุดแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น ทีมชาติไทย, เติร์กเมนิสถาน และ ไต้หวัน ซึ่งถือเป็นงานหนักสำหรับทีมที่ยังอยู่ในช่วงพัฒนา
เปิดใจเฮดโค้ชศรีลังกา! ยอมรับเป้าหมายหลักคือพัฒนาทีม ไม่ใช่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
ศรีลังกามีโปรแกรม ประเดิมสนาม ด้วยการบุกเยือน ทีมชาติไทย ที่ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 ซึ่งถือเป็นบททดสอบที่สำคัญของทีม อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อับดุลลาห์ อัล มูไธรี่ กุนซือของศรีลังกาออกมาเปิดใจถึงเป้าหมายของทีมชุดนี้ โดยยอมรับว่าการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของ เอเชียน คัพ 2027 เป็นเรื่องยากมาก แต่สิ่งที่เขาต้องการมากกว่านั้นคือการยกระดับทีมให้แข็งแกร่งขึ้น
โค้ชชาวคูเวตส่งข้อความถึงแฟนบอลศรีลังกาว่า
“ถึงแฟน ๆ ชาวศรีลังกา ผมเข้ามารับงานนี้ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2567 ตอนนั้นมีหลายคนที่ไม่เชื่อว่าเราจะผ่านเข้ารอบคัดเลือกได้ แต่เวลานี้ทุกคนเริ่มมีความหวังว่าเราจะสามารถเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของ เอเชียน คัพ 2027 สิ่งนี้มีความหมายอย่างมากสำหรับผมและนักเตะทุกคน”
“เราอยู่ในขั้นตอนของการสร้างทีม พยายามเพิ่มแมตช์การแข่งขันให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้ง และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ ศึกชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียใต้ 2025 เป้าหมายของเราคือการทำให้ศรีลังกากลายเป็นทีมที่ได้รับการยอมรับในเอเชีย แม้ว่าโอกาสในการเข้ารอบสุดท้ายอาจดูยาก แต่เราจะสู้เต็มที่และต้องการการสนับสนุนจากแฟนบอลทุกคน ก้าวไปด้วยกัน”
คำพูดของ อัล มูไธรี่ ชี้ให้เห็นว่าศรีลังกาไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การเข้ารอบสุดท้ายของ เอเชียน คัพ 2027 เท่านั้น แต่พวกเขากำลังสร้างทีมในระยะยาว โดยเป้าหมายใหญ่คือการสร้างทีมที่แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค
ทีมชาติศรีลังกา เตรียมอุ่นเครื่องก่อนลุยไทย
ก่อนเกมสำคัญกับ ทีมชาติไทย ศรีลังกามีโปรแกรม เดินทางไปเก็บตัวที่ สปป.ลาว พร้อมลงสนาม อุ่นเครื่องกับทีมชาติลาว ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญให้พวกเขาทดลองแท็กติกและปรับสภาพทีมให้พร้อมที่สุดก่อนเกมบุกเยือนไทย
อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับ ทีมชาติไทย ถือเป็นบททดสอบที่หนักหน่วง ศรีลังกาต้องเจอกับทีมที่มีขุมกำลังแข็งแกร่งกว่า มีประสบการณ์มากกว่า และที่สำคัญคือมีความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้าน งานนี้จึงเป็นความท้าทายสำคัญของ อัล มูไธรี่ และลูกทีม ว่าจะสามารถต้านทานความดุดันของช้างศึกได้มากน้อยแค่ไหน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ เอเชียน คัพ 2027 และข่าวสารฟุตบอลอัปเดตแบบเจาะลึก ได้ที่ ฟุตบอลไทย TOPTOWIN
