กลายเป็นสามแต้มอันแสนล้ำค่าของทีมชาติฝรั่งเศส เมื่อสามารถบุกไปเอาชนะ เบลเยี่ยม ได้ถึงบ้าน แม้ว่่าในช่วงท้ายครึ่งหลัง พวกเขาจะเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนก็ตาม แต่ก็ยังช่วยกันเล่นเกมรับ และยันสกอร์จนเอาชนะไปได้ 2 ประตูต่อ 1
ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
เบลเยียม 1 – ฝรั่งเศส 2
สนาม : สต๊าด รัว โบดวง
ช่วง 15 นาทีแรก เป็นทาง เบลเยี่ยม เจ้าบ้าน ที่ทำได้ดีกว่า และมีโอกาสจบสกอร์ถึง 2 ครั้ง จังหวะแรกเป็น ชาร์ลส์ เดอ เคตลาเร่ ที่ป้อนบอลไปให้ ยูริ ทีลาม็องต์ ได้ยิงด้วยขวา แต่ ฝรั่งเศส ยังได้ ไมค์ เมญอง ช่วยป้องกันไว้ได้ และอีกจังหวะเป็น เวาต์ ฟาส และ โลอิส โอเปนด้า ที่เล่นร่วมกัน จนสร้างโอกาสยิงได้ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
นาที 23 เบลเยี่ยม น่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ หลังจากได้จุดโทษ แจ่ ยูริ ทีลาม็องต์ สังหารพลาดไปอย่างเหลือเชื่อ
เจ้าบ้านหลังจากสร้างสรรค์เกมรุกอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถลงโทษฝรั่งเศสได้ สุดท้ายพวกเขาถูกลงโทษแทน และครั้งนี้มาเสียจุดโทษบ้าง แต่ โคโล่ มูอานี่ สังหารไม่พลาด พา ฝรั่งเศส ออกนำทันที ในนาทีที่ 35
แต่เจ้าบ้านไม่ยอมง่ายๆ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก พวกเขาตามตีเสมอได้สำเร็จ ในจังหวะที่ ทิโมธี คาสตาญ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และ โอเปนด้า ได้จังหวะโหม่งจ่อๆ ครั้งนี้ไม่พลาด
เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่นาน เป็น ฝรั่งเศส ได้ประตูนำอีกครั้งในนาทีที่ 62 จากจังหวะที่ ลูก้า ดีญ โยนบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น โคโล่ มูอานี่ คนเดิม ที่ได้จังหวะกระโดดโหม่ง เข้าไปอย่างสวยงาม
เกมผ่านจนมาถึง 10 นาทีสุดท้าย เบลเยี่ยม ยังมีความหวัง เมื่อ ฝรั่งเศส มาพลาดเสียผู้เล่นเพราะถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไป คือ โอเรเลียง ชูอาเมนี่
สุดท้าย เบลเยี่ยม ใช้ประโยชน์ในเรื่องตัวผู้เล่นไม่ได้ ทำให้ต้องกลายเป็นผู้แพ้ไปอย่างน่าเสียดาย
11 ตัวผู้เล่นของทั้งสองทีม